#TravelNewsInterview : ท่องเที่ยวแบบสุดโต่ง ไปกับ “บอลพาเที่ยว” พร้อมด้วยหวานใจ “วรินธรซ้อนท้าย”

บอลพาเที่ยว หรือ BackpackerBall ชื่อที่หลายๆคนคุ้นเคยกันดี กับการออกเดินทางแบบสุดโต่ง ในวันนี้ TravelNews จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นอีกนิด แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว วรินธรซ้อนท้ายหรือขนมจีน หวานใจของคุณบอลเองก็มาด้วย

  • มรสุมชีวิต คือสิ่งที่ทำให้ “บอล” พาเที่ยวมีวันนี้

หลายๆคนอาจจะคุ้นชินกับการที่คนที่มีชื่อเสียงนั้นจะต้องเป็นคนที่มีประวัติชีวิตที่ขาวสะอาด แต่กับคุณบอลนั้นไม่ใช่แบบนั้น เมื่อย้อนไปในช่วงเวลาวัยเด็ก พ่อและแม่ของคุณบอลนั้นได้แยกทางกัน ทำให้คุณบอลนั้นเติบโตมากับคุณย่าคุณยายที่ชนบท และเก็บเรื่องนี้มาเป็นปมในชีวิตของตัวเอง ทำให้เดินทางผิดคิดลองเล่นยา เงินที่พ่อและแม่ส่งมาให้ เขาไม่ได้ใช้ไปกับการเรียน แต่ใช้ไปกับเหล้ายาปลาปิ้ง ทำให้เรียนไม่จบ ซึ่งคุณบอลก็พูดแซวตัวเองว่า คนอื่นเขาเอาเกรด 4.0 ส่วนตัวเองนั้นเอา 0.4 แน่นอนว่าถ้าหากเรียนไม่จบ งานก็คงหาไม่ง่ายนัก และงานที่คุณบอลเคยได้ทำนั้น ก็เรียกได้ว่าหลากหลาย มีตั้งแต่การเป็นเด็กเสิร์ฟ พนักงานล้างจาน คอลเซนเตอร์ คนส่งเอกสาร รวมไปจนถึงเป็นเด็กนั่งดริ๊งก์ เพราะว่าตอนนั้นเรียกได้ว่าอดอยากปากแห้ง หลังจากนั้นเป้าหมายชีวิตของคุณบอลมีแต่เรื่องเงิน

“ด้วยความที่เราเองคิดแต่เรื่องเงิน ไม่ได้สนใจความชอบ คิดว่าในเมื่อเป็นลูกจ้าง แล้วเราไม่รุ่ง ไม่รวย ไม่มีตำแหน่งใหญ่โต เพราะว่าวุฒิการศึกษาไม่ได้ดี ไปค้าขายน่าจะรวย แต่สุดท้ายเราทำอะไรที่เราไม่ชอบ เราทำได้ไม่นาน ท้ายที่สุดก็ล้มเลิก”

การเป็นหนี้ก้อนใหญ่ก้อนแรกของคุณบอลเกิดขึ้นจากการที่ตัดสินใจผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าเวฟ เพื่อมาใช้ขายไก่ต้มน้ำปลา กุ้งอบวุ้นเส้น แต่สุดท้ายก็ต้องปิดกิจการไป แล้วมาทำงานใช้หนี้ที่กรุงเทพฯ จนวันหนึ่งที่คุณบอลนั้นได้เข้าทำงานที่บริษัททัวร์ ซึ่งนี้คือจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนชีวิตของคุณบอล และทำให้มีบอลพาเที่ยวที่ทุกคนรู้จักในวันนี้

 

คุณบอลเล่าว่า “ผมได้เห็นภาพแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพในไทยและต่างประเทศ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ไป แต่เราอ่านโปรแกรม ก็เลยรู้สึกว่า เฮ้ย เราอยากจะออกไปเดินทาง อยากออกไปเห็นโลกกว้าง จนท้ายที่สุดก็ตั้งมั่นกับตัวเองว่าถ้าหากปลดหนี้เสร็จ ก็จะเอามอเตอร์ไซค์คันเก่าๆ ขี่เที่ยวให้ทั่วประเทศไทย”

ในช่วงอายุ 30 – 34 ปี คุณบอลออกเดินทางด้วยนั่งรถไฟราคาประหยัด รถไฟฟรี โบกรถ ออกไปลองกางเต็นท์ ท้ายที่สุด คุณบอลจึงได้รู้ว่า “การเที่ยว การเดินทาง มันไม่ได้แพง ไม่ได้ประหยัด และได้เรียนรู้ชีวิตอะไรหลายๆอย่างจากการเดินทาง” 

“การเดินทางเป็นอีกหนึ่งโรงเรียน ที่จะสอนเราในการเรียนรู้ชีวิต ในการที่จะอยู่แบบเรียบง่าย แก้ปัญหา แล้วเราจะได้รู้สึกว่าพอเราแก้ปัญหาเยอะๆ มันจะไม่รู้สึกว่ามันคือปัญหา”

  • การตัดสินใจครั้งสำคัญ ลาออกเพื่อมาเดินทางทั่วไทย

การลาออกจากงานประจำที่มั่นคงหลังจากที่พยายามมาหลายปี สิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นความกล้าหาญอย่างมาก ซึ่งคุณบอลได้เล่าถึงการตัดสินใจลาออกของตัวเองในตอนนั้นว่า เขานั้นได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กของตัวเองว่าจะลาออกเพื่อออกไปเที่ยวทั่วประเทศไทย แต่ในตอนนั้น 80% ของคอมเมนต์ล้วนแต่บอกให้เขาหยุดความคิดนี้ซะ ให้คิดเยอะๆ เพราะตอนนั้นเขาเองก็อายุ 34 แล้ว การที่จะกลับเข้าระบบการทำงานคงไม่ได้ง่าย และมันไม่มีความมั่นคง ในตอนนั้นสิ่งที่คุณบอลไขว่คว้าหามาตลอดคือความมั่นคงทางการเงิน แต่ทุกสิ่งไม่ได้เป็นไปตามนั้น มันมีแต่ความเหนื่อยยาก ซึ่งทำให้คุณบอลนั้นเกิดคำถามขึ้นมาว่าเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตในการทำงาน หาเงินกินไปวันๆหรอ ท้ายที่สุด เราก็ต้องเจียดเวลาอันน้อยนิดเพื่อให้ได้ไปเที่ยวในที่ใกล้ๆ แต่พอคุณบอลได้ออกเดินทางนั้นจึงทำให้เขาได้รู้ว่านี่คือสิ่งที่เขาชอบ เขาไม่ได้ต้องการเงินเยอะแยะ แต่เขาต้องการอิสระ

 

“คือความมั่นคงเนี้ย ที่สำคัญเราต้องเป็นคนกำหนดเอง ไม่ใช่สังคมกำหนด เวลาที่เราไปอยู่กับธรรมชาติ เจอผู้คน เจอสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่เราได้มันไม่ใช่ความมั่นคงทางกาย แต่มันเป็นความมั่นคงทางจิตใจ เราใช้ชีวิตแบบลำบากแล้วเราไม่รู้สึกลำบาก นั่นแหละคือความมั่นคงสำหรับผม”

  • วรินธรซ้อนท้าย จากผู้หญิงสายคาเฟ่ สู่เส้นทางสายลุย

“คุณขนมจีน” หรือที่เราจะคุ้นเคยในชื่อของ “วรินธรซ้อนท้าย” นั้น ในตอนนี้ทำธุรกิจของครอบครัวอยู่ สไตล์การเที่ยวของคุณขนมจีนในตอนแรกคือชอบเที่ยวตามคาเฟ่ ถ่ายรูปสวยๆ อยู่ในแอร์สบายๆ แต่พอมาเจอคุณบอลก็เหมือนได้เปิดโลกอีกใบ สัมผัสอีกพาร์ทหนึ่งของชีวิต ไปเจออากาศร้อนๆ แดดร้อนๆ แต่ก็รู้สึกดีเพราะเหมือนได้สัมผัสอีกบรรยากาศ

คุณบอลได้เสริมว่า ที่จริงแล้วคุณขนมจีนเป็นคนที่ชอบเที่ยวอยู่แล้ว แต่เป็นเที่ยวแบบสบาย เที่ยวคาเฟ่ แต่ตัวคุณบอลเองก็มีโอกาสได้จีบคุณขนมจีน เลยลองชวนคุณขนมจีนให้ไปเที่ยวด้วยกัน ไปแบบซ้อนน้องเวฟของคุณบอลไป สุดท้ายแล้วสิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่การเที่ยว แต่เป็นเรื่องของความภูมิใจ ภูมิใจที่ตัวเองก็สามารถออกไปเที่ยวแบบนี้ได้ ลำบากได้

 

“เดิมทีลองไปเที่ยวกับเขาทริปสั้นๆ ทริปประมาณ 10 วัน The Loop เชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน แบบไม่ถ่ายวีดีโอเลย ลองไปดูซิ ว่าเราจะไปด้วยกันรอดไหม ทีนี้พอไปแล้วเราดันชอบ เราได้ไปสัมผัสบรรยากาศ น้ำใจของคนข้างทางที่เขามอบให้เรา เจอสิ่งที่เราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน แล้วพอเราได้นั่งซ้อนท้ายเวลาลมปะทะหน้า ต่อให้เราจะร้อนแค่ไหน เรารู้สึกดี เราชอบ ก็เลยกลายเป็น เราไปไหนไปกันได้เลยค่ะ ยกเว้นนอนเมรุนะคะ” คุณขนมจีนเล่าให้พวกเราฟังพร้อมรอยยิ้ม 

 

“คือเรารู้แล้วว่าเขาเป็นไทป์ประมาณไหน แต่เราต้องพาเขามาซ้อนมอเตอร์ไซค์แน่นอน แต่ว่าจะทำยังไงให้ผู้หญิงในลักษณะนี้ติดใจ ในการเดินทางเนี้ยเราได้เจอผู้คนเยอะ มันทำให้เราเข้าใจชีวิต เข้าใจโลกใบนี้ ผมก็จะให้เขาไป Route ที่สวยๆ อากาศเย็นสบาย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แล้วผมก็จะถ่ายวีดีโอเขา ให้เขาได้เห็นตัวเองในตอนที่เขาไปลุย ในตอนที่เขาไปคุยกับคุณป้าคุณยาย ในตอนที่เขาสนุกสนานกับมอเตอร์ไซค์ ประมาณว่าค่อยๆนวดก่อนให้เขาติดใจ พอหลังจากนั้นเราก็เพิ่มลิมิตความโหด แต่สุดท้ายภูมิใจไหมในทุกระดับที่ข้ามมาได้ในแต่ละระดับความโหด” คุณบอลถามคุณขนมจีน

 

รู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก ที่กล้าก้าวข้ามผ่านคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง”

 

ซึ่งตัวคุณบอลเองก็ยังหวังว่าสักวันหนึ่งคุณขนมจีนจะปลดล็อกการนอนเมรุได้ แต่ตัวคุณขนมจีนในตอนนี้ยังคงปฏิเสธในการนอนที่เมรุแบบ 100%

  • เหตุผลที่ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นรถคู่ใจในการเดินทาง

ในการท่องเที่ยวหลายๆคนก็คงจะมีตัวเลือกมากมายให้ได้เลือกว่าอยากจะเดินทางอย่างไร ขับรถ นั่งขนส่งสาธารณะ ขึ้นเครื่องบิน นั่งรถไฟ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนล้วนมีเหตุผลเป็นของตัวเองในการเลือกเดินทาง คุณบอลเองก็มีเหตุผลที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในการเป็นพาหนะคู่ใจ ซึ่งคุณบอลเองเล่าว่าในตอนที่เขาตัดสินใจที่จะลาออกจากงานมาเดินทางนั้น เขาใช้ชื่อ ‘บอลพาเที่ยว Backpacker Ball’ เพราะในตอนที่เขายังทำงานอยู่ เขาออกเที่ยวแบบแบกเป้เที่ยว แต่เมื่อลาออกแล้ว ด้วยเงินที่มีจำกัด เขาไม่สามารถที่จะซื้อบิ๊กไบค์ได้ หรือการใช้ขนส่งสาธารณะนั้นก็สิ้นเปลือง และไม่สามารถที่จะพาเขาไปได้ทุกที่ ดังนั้นการใช้มอเตอร์ไซค์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

ในตอนแรกที่ออกเดินทางนั้นคุณบอลไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่ไหนไกลๆ ด้วยซ้ำ เขาขับแค่ส่งเอกสารในเมือง เดินทางในเมือง แต่คุณบอลได้รับแรงบันดาลใจจากคนโซเชียล เช่น คุณลุง 500 ถึงเขาจะอายุเยอะ แต่เขาเองก็ขับมอเตอร์ไซค์แม่บ้านออกเที่ยวได้ ถ้าคุณลุงทำได้ เขาเองก็ต้องทำได้

 

ตั้งแต่เริ่มต้นการเดินทางจนถึงตอนนี้ทักษะที่คุณบอลไม่มีเลยคือการซ่อมรถ เพราะว่าเขาขับรถมอเตอร์ไซค์แม่บ้าน ถ้าพังก็หาร้านซ่อมง่าย ค่าเซอร์วิสไม่แพงมาก หรือแม้แต่น้ำมันเครื่องก็ไม่เคยเปลี่ยน และสิ่งที่ได้จากการขี่มอเตอร์ไซค์คันเล็กแบบนี้คือมันพาเราไปได้ทุกที่ เข้าถึงชุมชน เข้าถึงชาวบ้าน ซึ่งเมื่อชาวบ้านเห็นคุณบอล จะมีคำถามที่คล้ายๆกันคือ ‘น้องมาขายอะไรนิ มีอะไรขายบ้างนิ’ เพราะว่ารถนั้นมีความพะรุงพะรังของสัมภาระ และเรื่องนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณบอลและชาวบ้านได้พูดคุยกัน และได้มิตรภาพใหม่ๆกลับมา คุณบอลนั้นเปิดใจพูดคุยกับชาวบ้าน

 

“มอเตอร์ไซค์นี่แหละคือพาหนะที่ทำให้อิสระเหมือนติดปีก

โดยไม่ต้องใช้เงินเยอะแยะมากมาย”

 

  • ท่องเที่ยวแบบนี้ สุดโต่งไปไหม?

นี้คงเป็นหนึ่งในคำถามที่หลายๆ คนถามขึ้นมาเมื่อได้ดูคลิปของคุณบอล ซึ่งทางคุณขนมจีนก็ได้บอกว่าพวกเขาไม่ติดว่าใครจะมองยังไง ถ้าเรามีความสุข แล้วเราสามารถทำได้ เราก็ทำไป ขอแค่ไม่เดือดร้อนใครก็พอ

คุณบอลเองก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่าสำหรับตัวเขาเองแล้วเป็นเรื่องธรรมดา ในสายตาคนอื่นสิ่งที่คุณบอลทำนั้นอาจจะเป็นความสุดโต่งที่มากเกิน เพราะนั้นคือมาตรฐานของคนที่ดู และเพราะความสุดโต่งที่เขาทำมาตลอด ทำให้เขามีวันนี้ วันที่สามารถใช้ชีวิตได้มากขึ้น แรกๆ มันอาจจะดูลำบาก แต่ถ้าทำไปนานๆ มันจะกลายเป็นความธรรมดา 

 

“คุณและหลายๆคนที่กำลังดูอยู่ควรจะทำอะไรที่มันสุดโต่ง สุดโต่งที่สร้างสรรค์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณอยากที่จะมีธุรกิจส่วนตัว คุณต้องเก็บเงินอย่างสุดโต่ง หาความรู้อย่างสุดโต่ง แล้วสิ่งที่ได้หลังจากผ่านมาในเรื่องของความสุดโต่งของตัวเอง คือความภาคภูมิใจ ภาคภูมิใจที่ เฮ้ย เราทำมันได้เว้ย เฮ้ย เราภาคภูมิใจ แล้วเราก็เสพความสุดโต่งในเรื่องต่างๆที่ไม่ได้เดือดร้อนใคร”

.

แต่แน่นอนว่าเมื่อทั้งสองกลายเป็นบุคคลสาธารณะสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือเรื่องของการเจอคอมเมนต์ที่ไม่ดีหรือการถูกตัดสินจากคนที่ไม่รู้จัก ทั้งคุณบอลและคุณขนมจีนต่างก็เคยพบเจอเรื่องแบบนี้ ในตอนแรกคุณขนมจีนนั้นเรียกได้ว่าจิตตกจากคอมเมนต์ต่างๆ ส่วนคุณบอลเองก็เคยคิดจะเลิกทำบอลพาเที่ยวเพราะคอมเมนต์ในตอนนั้นด้วย

 

“ผมโดนบูลลี่มาตั้งแต่ตอนที่ลาออกจากงานมาเที่ยวทั่วประเทศไทย รุมด่ากัน ทั้งในเว็บพันทิปอะนะ เห้ย ไอ้บอลเที่ยวแบบขอทาน แบบนี้จะให้แรงบันดาลใจอะไรใครได้ แต่ผมกล้าการันตี คอนเฟิร์ม ณ ตรงนี้เลย ทุกคนที่ติดตามมา หลายๆคนจะเป็นพยานได้เลยว่า บอลไม่เคยขอข้าวใครข้าวใครกิน ไม่เคยขอที่นอนใครนอน” 

 

บอกได้เลยว่าตัวคุณบอลเองนั้นบอกอย่างชัดเจนมาโดยตลอดว่าตัวเขาจะไม่รับของที่คนอื่นนำมาให้ แต่แน่นอนว่าก็ต้องมีบางครั้งที่ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ เคยมีคนให้ปลากระป๋องเขามา 10 กระป๋อง คุณบอลเลยเลือกที่จะแบ่งปันต่อโดยการให้คนอื่นไป 9 กระป๋อง เก็บไว้กินเองเพียงแค่ 1 กระป๋อง เพราะไม่อยากให้คนที่เอาของมาให้เสียน้ำใจ แต่ตัวเขาเองก็โดนด่าอยู่ดี คุณบอลเคยคิดจะเลิกแชร์เรื่องราวของตัวเอง แต่ก็ได้คนที่ติดตามเขาเข้ามาให้กำลังใจ ทำให้เขาในตอนนั้นกลับมามีแรงฮึดอีกครั้ง พร้อมกับนำเอาคอมเมนต์ที่ไม่ดีมาเป็นแรงผลักดัน เป็นวัคซีนที่ให้จิตใจเราได้แข็งแกร่ง และคุณบอลยังได้บอกอีกด้วยว่าไม่ใช่แค่โซเชียล ในสังคม ในการทำงานทุกวัน คุณก็จะโดนติฉินนินทาเรื่อยไป ฉะนั้นนี้คือบททดสอบชีวิตที่เข้ามาให้คุณเรียนรู้

 

“ผมแค่อยากจะบอกว่า ในโลกใบนี้ ทุกคนหลากหลายมุมมอง หลากหลายความคิดเห็น ฉะนั้นเราไม่สามารถให้ทุกคนคิดอย่างที่เราคิดได้”

 

ส่วนตัวคุณขนมจีนในตอนแรกที่ได้เจอคอมเมนต์แง่ลบ คุณขนมจีนก็จิตตก แต่หลังจากนั้นคุณขนมจีนเองก็ค่อยๆได้ทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ เริ่มยิ้มและปล่อยผ่านไป ด้วยความคิดที่ว่าถ้าเราไม่ได้เป็นแบบที่เขาพูด มันก็ไม่เป็นไร ให้เขาพูดไป

การเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง

เป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนน่าจะสงสัยในเรื่องนี้ แต่คำตอบกลับเรียบง่ายกว่าที่เราหลายคนคิดกันมากๆ เพราะทั้งคุณขนมจีนและคุณบอลต่างตอบเหมือนกันว่าเตรียมเสื้อผ้า เตรียมตัว และเตรียมใจ

 

เมื่อก่อนคุณบอลเองเคยหาข้อมูล ดูแม้กระทั่งอุณหภูมิ แต่พอได้เดินทางเยอะ จึงไม่ได้หาข้อมูลอะไรมากขนาดนั้นแล้ว เมื่อมีปัญหาหน้างาน ก็แก้เอาหน้างาน ค่อยว่ากัน อุปกรณ์ซ่อมรถก็ไม่เคยเอาไป เพราะว่ารถที่คุณบอลใช้นั้นคือรถมอเตอร์ไซค์แม่บ้าน ไม่ว่าไปที่ไหนก็ซ่อมได้

 

เขาว่ากันว่าการเดินทางจะทำให้รู้จักกันมากขึ้น คุณบอลกับคุณขนมจีนเองก็เช่นกัน ที่ทั้งสองต้องผ่านการปรับตัว การจูนความคิด ทัศนคติเรื่องต่างๆด้วยกัน

 

คุณขนมจีนเองเป็นคนที่ไม่ได้ชอบความร้อน แต่เมื่อต้องออกท่องเที่ยวพร้อมกับคุณบอล คุณขนมจีนเองก็ต้องปรับตัว ไม่ใช่แค่คุณขนมจีนที่ปรับ คุณบอลเองก็เช่นกัน ด้วยความที่เมื่อก่อนคุณบอลนั้นออกเดินทางคนเดียว พอต้องออกเดินทางเป็นคู่ไปกับคุณขนมจีนแน่นอนว่าเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ก็มีตึงๆใส่กันบ้าง แต่พอคิดว่าเขาเองก็อุตส่าห์มากับเรานะ แล้วยิ่งเดินทางด้วยกัน เรียนรู้กันก็ทำให้ทั้งสองคนหายตึงกันได้ไว

 

แต่เรื่องราวการเดินทางของทั้งสองคนก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะว่าก็มีครั้งที่ทั้งสองคนทะเลาะกันจนเกือบที่จะต้องเลิกกัน แยกย้ายกันไปจริงๆด้วย

 

คุณขนมจีน : ทริปคลั่งรักวาเลนไทน์คือด้วยความที่เป็นตัวเขา แล้วเราเป็นตัวเรา มันเป็นทริปแรกที่เราเดินทางด้วยกันแบบไกลมากที่สุดที่แบบจะได้เรียนรู้กัน แล้วพอคนคนละขั้วมาเจอกันอะค่ะ เรารักกัน แต่ไลฟ์​สไตล์เราค่อนข้างไม่ตรงกัน แล้วความคิดเราอาจจะไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่

คุณบอล : ทริปนั้นเป็นทริปแรกเลยที่พาหวานใจเที่ยวแบบหลายจังหวัดมาก วาดเป็นรูปหัวใจในแผนที่ประเทศไทย แล้วเราถ่ายวีดีโอ ถ่ายยูทูบด้วย 

เหนื่อยด้วย งานด้วย ก็ไม่ได้ดั่งใจด้วย ในการที่เราจะเอาอย่างนู้น เอาอย่างนี้ Behide The Scene เลยนะ คือในคลิปเนี้ยก็ยังไปกันต่อนะ เหมือนกับง้อกันตรงนั้น แต่จริงๆมาง้อกันระหว่างทาง ระหว่างทางที่กำลังจะขี่กลับ จะออกจากอุทัยละ แต่ท้ายที่สุดพอเราได้คุยกัน ได้ปรับความเข้าใจกัน ก็เริ่มกันใหม่ สตาร์ทกันใหม่ หายใจเข้าลึกๆ แล้วสุดท้ายมันก็ไปต่อได้ มันก็เหมือนเป็นจิ๊กซอว์อีกตัวหนึ่งที่ทำให้เราค่อยๆเรียนรู้กันไป ถามว่าหลังจากนั้นทะเลาะกันไหม ก็มีนะ

คุณขนมจีน : มีบ้างแต่ไม่ได้ถึงขั้นหนักขนาดนั้น คือมันสามารถให้เราได้เรียนรู้ การเดินทางมันเรียนรู้ชีวิตคู่ของเราจริงๆ คือเล็กๆน้อยๆ จากที่เราเคยแบบ เอ๊ย อันนี้ไม่ได้ไม่ได้ ที่มันต่อกันไม่ติด มันทำให้เราก้าวข้ามผ่านตรงนั้นได้ง่ายมาก เพราะว่าเราได้มีด้ายแดง

คุณบอล : ด้ายแดงที่มันเหนี่ยวขึ้น ผ่านทุกการเดินทาง มันถักทอให้เหนี่ยวขึ้น แล้วจะปล่อยวางกับเรื่องบางเรื่องที่เราเคยซีเรียสได้ เรื่องบางเรื่องเราก็ปล่อยวางได้มากขึ้น บวกกับความสวยงามที่เราเคยเจอ สุดท้ายมันก็ทำให้เรานึกถึงเรื่องดีๆที่เราสองคนได้ไปเจอมา ฉะนั้นไอ้เรื่องปัญหาต่างๆมันก็กลายเป็นปล่อยวางได้เร็วขึ้น 

อีกหนึ่งเพื่อนคู่ใจที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคุณบอลคือมอเตอร์ไซค์ ซึ่งคันที่คุณบอลใช้เดินทางอยู่ในตอนนี้นั้นไม่ใช่คันแรกและก็ไม่ใช่คันสุดท้าย เพราะว่าก่อนที่คุณบอลจะมาใช้คันนี้ คุณบอลเคยใช้คันอื่นมาก่อน คันแรกคือน้องเวฟฟี่ ใช้งานนานถึง 10 ปี เป็นคันที่ใช้ขับขายอาหารพ่วงข้าง ส่งเอกสารรอบกรุงและยังเป็นมอเตอร์ไซค์คันแรกที่พาคุณบอลไปทั่วประเทศ คันที่ 2 คือน้องบักอึด มอเตอร์ไซค์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Honda เมื่อใช้มาได้ 2 ปี จึงได้มีคันที่ 3 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน น้องบึกบึน ถึงแม้เวลาจะผ่านไปแต่คุณบอลก็ยังใช้มอเตอร์ไซค์คันเล็กแบบเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ด้วยเหตุผลที่ว่ามีความทนทานมาก ที่ซ่อมก็หาได้ง่าย หรือถ้าหากเกิดรถล้มก็สามารถใช้เท้าค้ำได้ทัน หรือหากค้ำไม่ทัน ก็ยังกระโดดออกมาได้ง่าย ที่สำคัญคือเรื่องของการประหยัดน้ำมัน และไม่ต้องกลัวขโมย แต่ในอนาคตก็วางแผนเอาไว้ว่าคันที่ 4 อาจจะเลือกเป็นบิ๊กไบค์ เพื่อที่ว่าให้หวานใจของคุณบอลซ้อนได้สบายมากขึ้น

 

  • สิ่งที่ได้จากการเดินทาง

สิ่งที่ทั้ง 2 คนได้จากการเดินทาง ถ้ามองในด้านวัตถุแน่นอนแล้วว่าก็คงเห็นได้อย่างชัดเจนจากบ้านที่กำลังสร้างของคุณบอลและคุณขนมจีน จากคนที่ไม่มีอะไรเลยในวันนั้น เคยติดยา ติดหนี้ ในวันนี้มีบ้านเป็นของตัวเอง เริ่มสร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง และที่นอกเหนือจากนั้นแล้ว สิ่งที่ได้จากการเดินทางไม่ได้มีแค่วัตถุเท่านั้น ยังมีมิตรภาพดีๆ ผู้ใหญ่หลายๆคนที่สนับสนุนคุณบอลให้ได้ออกไปเจอโลกกว้าง ได้ฝึกฝนการใช้ชีวิต ได้มีความมั่นคงในการใช้ชีวิตตามแบบของตัวเอง คุณขนมจีนเองก็ได้ก้าวข้ามผ่านคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง ได้ออกมาเจอโลกกว้าง พร้อมด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

หลังจากร่วมเดินทางกันมาคุณบอลและคุณขนมจีนมีมุมมองต่อการเดินทางว่าเป็นเหมือนหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้พาตัวเองออกไปเจอโลกใหม่ๆ ได้พบเจอปัญหาเพื่อที่จะได้เรียนรู้ที่จะแก้ไข และการเดินทางก็ทำให้พวกเขาได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ที่มีมิตรภาพที่ดีให้แก่กัน

 

ตลอดการเดินทางที่ผ่านมาทั้ง 2 คนก็มีสถานที่ที่ประทับใจเป็นพิเศษซึ่งก็คือทริปที่มาเลเซีย แต่ก่อนที่จะได้คำตอบนี้มา บอกได้เลยว่าทั้งคุณบอลและคุณขนมจีนนั้นกลุ้มใจพอสมควร เพราะสำหรับทั้งสองคนแล้ว ทุกที่ที่ได้ไปล้วนแต่มีเรื่องราวและความประทับใจที่ต่างกันไป แต่ที่เลือกที่มาเลเซียมานั้นเป็นเพราะว่าเป็นทริปแรกที่ได้ไปต่างประเทศพร้อมกัน แล้วมาเลเซียยังเป็นประเทศที่อาหารอร่อย ผู้คนเป็นมิตร แล้วยังสามารถที่จะขับรถมอเตอร์ไซค์ไปได้

 

ค่าเข้าประเทศมาเลเซียสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไม่แพงนัก ค่าครองชีพเองก็ไม่ได้ต่างจากไทย ค่าน้ำมันก็มีราคาถูก ผู้คนก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งประเทศที่ทั้งคุณบอลและคุณขนมจีนแนะนำให้ลองขับรถไปเอง เพื่อที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ แบบที่มือใหม่ก็สามารถที่จะไปได้ หรือถ้าหากไม่มั่นใจ ในวีดีโอการเดินทางของคุณบอลและคุณขนมจีนนั้นก็มีข้อมูลมากมายให้ได้ดู เพราะทั้งสองคนบอกว่าพวกเขานั้นแชร์ข้อมูลทุกอย่าง สิ่งที่เจอ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ เพื่อที่ว่าถ้าใครอยากที่จะเดินทาง แต่ไม่มีข้อมูล จะสามารถตามรอยในที่ที่พวกเขาไปได้

และยังมีอีกหนึ่งที่ที่คุณบอลแนะนำคือประเทศลาว เพราะอาหารการกินหรือภาษานั้นก็เรียกได้ว่าเหมือนพูดภาษาเดียวกัน ผู้คนเองก็มีน้ำใจ

 

  • เป้าหมายในการเดินทาง

ถ้าใครที่ติดตามคุณบอลมานั้นจะรู้เลยว่าประเทศไทยนั้น คุณบอลก็ไปมาหมดแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนก็ไปมาแล้ว เรียกได้ว่าเป้าหมายที่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งสามารถที่จะพาไปได้นั้นก็เก็บครบหมดแล้ว แต่แน่นอนว่าเป้าหมายของคุณบอลและคุณขนมจีนนั้นไม่ได้จบแค่นี้ เพราะเป้าหมายของทั้งสองคนคือ ‘อยากจะขี่เวฟไปทั่วโลก’ เมื่อก่อนเคยมีความฝันว่าอยากจะไปทั่วไทย แต่พอทำได้แล้ว ความฝันของคุณบอลก็ขยายออกไปไกลมากขึ้น โดยที่เป้าหมายใหม่นี้มีคุณขนมจีนร่วมด้วย

แต่ถ้าเป็นเป้าหมายที่จะทำในเวลาใกล้ๆนี้คือคุณขนมจีนไปในปีนี้คือแชงกรีล่า ประเทศจีน

 

“โลกใบนี้มันกว้างใหญ่ ประสบการณ์เยอะแยะรอเรารอทุกคนอยู่”

.

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่กล้าที่จะก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองเพื่อที่จะออกไปเดินทาง ซึ่งคุณขนมจีนที่เพิ่งจะเริ่มเดินทางก็ได้บอกว่าให้ลองเปิดใจทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้ดู แล้วก็ไปลุ้นกับหน้างาน สนุกไปกับทุกๆเรื่อง แล้วทุกอย่างจะแฮปปี้ ซึ่งคุณบอลในฐานะนักเดินทางที่ผ่านมาหลายสนามมากๆ ก็ได้เสริมว่าให้ลองออกมาทำดูก่อน ถ้าทำแล้วไม่ชอบก็ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายแล้วก็ถือว่าเราได้ลอง ได้รู้ แต่ถ้ายังไม่เคย ก็ให้ออกมาลองทำเลย เพราะไม่แน่ว่าสิ่งที่เราไม่เคยคิดจะทำหรือไม่กล้านั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ชอบ เป็นความสนุกที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเองก็ได้ แล้วทริปนั้นอาจจะกลายเป็นทริปที่ประทับใจมากที่สุดเลยก็ได้

 

  • ช่องทางการติดตาม

ติ๊กต๊อก : วรินธรซ้อนท้าย

เฟซบุ๊ก : Nhomjeen Varintorn 

ติ๊กต๊อก : บอลพาเที่ยว

เฟซบุ๊ก : บอลพาเที่ยว

คุณบอลเคยเป็นคนหนึ่งที่ล้มเหลว แต่ในวันนี้คุณบอลก็สามารถที่จะทำตามความฝันของตัวเองได้ ใช้ชีวิตให้หลายมุมมอง หลายรูปแบบและแตกต่าง แล้วชีวิตจะเต็มไปด้วยสีสัน และสนุกอย่างแน่นอน

คุณขนมจีนก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยออกเดินทางแบบลุยๆ แต่เมื่อได้ลองแล้วนั้นสิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่ได้เที่ยวหรือได้ไปในที่ที่สวยๆ แต่ยังมีเรื่องของความภาคภูมิใจในตัวเองด้วย