พี่มิ Cappuccino เพราะการเป็นแอร์ไม่ใช่แค่อยากแล้วจะได้เป็น

“แอร์โฮสเตส” อาชีพในฝันของใครหลายๆคน แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะไปถึงฝัน วันนี้เราจะพามารู้จักกับหนึ่งในอดีตแอร์โฮสเตสของสายการบิน Qatar Airways

คุณมิ Cappuccino อดีตแอร์โฮสเตสมากความสามารถ หลังจากที่ได้คุยกับคุณมิแล้ว บอกได้เลยว่าเป็นการเปิดโลกของเราให้กว้างขึ้นมากๆ ทั้งในแง่มุมของเรื่องการทำงาน การตามหาตัวเอง รวมไปถึงแง่มุมๆใหม่ๆในการเดินทาง


  • ทำความรู้จักกับคุณมิ

“สวัสดีค่ะ พี่มินะคะ ถ้าเป็นชื่อที่คุ้นหูทุกๆคนก็จะเป็น พี่มิคาปูชิโน่ (Cappuccino) นะคะ เคยเป็นพนักงานต้อนรับของ Qatar Airways มา 14 ปี ตอนที่ลาออกอยู่ในตำแหน่ง Cabin Service Directors หรือก็คือหัวหน้าบนเที่ยวบิน ”

เรียกได้ว่าคุณมิเป็นแอร์ที่มีประสบการณ์มากเลยทีเดียว เพราะอายุงานของคุณมิมีถึง 14 ปีและไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่จะได้ทำงานตำแหน่งนี้ได้

แต่ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกถึงประสบการณ์การทำงานของคุณมินั้น เราหลายๆคนจะรู้จักคุณมิผ่านทางช่องทางติ๊กต๊อก ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการบิน แอร์โฮสเตส เที่ยวบิน รวมไปถึงเรื่องเล่าผ่านการแสดงเล็กๆน้อยๆของคุณมิ ตอนที่ดูบอกได้เลยว่ามีรอยยิ้มแล้วยังได้ความรู้ด้วย แต่เราก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงต้องชื่อ Cappuccino 

คุณมิเล่าว่า “จุดเริ่มต้นคือตอนนั้นอยู่ในร้านกาแฟ แล้วอยากจะเปิด ID ยูทูบ แต่ไม่รู้ชื่ออะไร เลยเอาคาปูชิโน่ที่อยู่ตรงหน้าเรามาตั้งก่อน คิดว่าถ้าดังค่อยเปลี่ยน แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนนะคะ เวลาคิดถึงชื่อนี้ทีไรก็คิดถึงวันนั้นที่เราเปิดยูทูบค่ะ”

เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่เล็กๆน้อยๆ ที่วันนี้กลายเป็นเหมือนซิกเนเจอร์ของคุณมิไปแล้ว และเชื่อว่าหลายคนคงจดจำคุณมิได้ในชื่อ “พี่มิ คาปูชิโน่”

หลังจากที่เราได้รู้ถึงที่มาของชื่อที่เราคุ้นตาคุ้นหูกันแล้ว คำถามต่อไปก็เกิดขึ้นในใจ ว่าแล้วเพราะอะไร ทำไมจากแอร์โฮสเตส นางฟ้าบนเครื่องบิน ถึงได้ผันตัวมาเป็นติ๊กต๊อกเกอร์และยูทูบเบอร์ โดยคุณมิได้เล่าถึงที่มาของการเปิดชาแนลของตัวเองเอาไว้ว่า “เมื่อก่อนมิไม่ได้ชอบลงภาพหรือคลิปเลย เขินมากเมื่อก่อน แต่ตอนนั้นเราเริ่มคิดถึงอนาคตของตัวเองละ แล้วตอนนั้นเริ่มขายของแต่เราไม่ได้เป็นที่รู้จัก คนที่ติดต่อด้วยก็ไม่เชื่อใจเรา นั้นเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มาทำยูทูบ แต่พอเราทำยูทูบแล้ว เราก็ไม่อยากจะแค่ขายของอย่างเดียว เลยหาเรื่องมาเล่า เอาเรื่องใกล้ตัวของเรามาเล่า ซึ่งเรื่องที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดคือเรื่องของอาชีพแอร์ที่เราทำ จนสุดท้ายก็เล่าแต่เรื่องแอร์ ไม่ค่อยได้ขายของค่ะ แต่ก็สนุกมากนะคะ เพราะเป็นการเล่าเรื่องชีวิตประจำวันการทำงานของเรา”

ในตอนนี้เราได้รู้จักคุณมิในพาร์ทของการที่เป็นคนดังในโลกโซเชียลแล้ว ต่อไปที่เราจะพาไปทำความรู้จักก็คือในพาร์ทของประสบการณ์ทำงานของคุณมิ เส้นทางการเป็นแอร์โฮสเตส รวมไปจนถึงเหตุผลที่คุณมิตัดสินใจที่จะลาออกจากอาชีพแอร์โฮสเตสที่หลายคนมองว่าเป็นอาชีพที่ดี และมีสวัสดิการที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

  • จุดเริ่มต้นของการอยากเป็น “แอร์โฮสเตส”

คุณมิเล่าจุดเริ่มต้นการเป็นแอร์โฮสเตสว่า “ถ้าย้อนเวลาที่พี่มิเป็นแอร์คือ 14 ปี บวกลบไป ก็ประมาณ 17 – 18 ปีที่แล้วนะคะ ตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากมีเงินเดือนที่ดี สวัสดิการที่ดี เลยคิดว่างานอะไรที่เราทำได้ ไม่เกินเอื้อม การเป็นแอร์เมื่อก่อนค่อนข้างยาก แต่คิดว่าตัวเองต้องทำได้สิ ยิ่งเวลาหาข้อมูลในพันทิป เขามาเล่าเรื่องของเขาเกี่ยวกับการเป็นแอร์ เรายิ่งรู้สึกว่าเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้สิ แล้วยิ่งหาข้อมูลยิ่งอิน ยิ่งชอบ เราอยากได้เงินเดือนที่ดี มีสวัสดิการที่ดี รวมถึงอยากเที่ยวด้วย เลยตัดสินใจจะเป็นแอร์ค่ะ”

พอเราเห็นเรื่องของเวลานั้นย้อนไปมากถึง 17-18 ปีที่แล้ว แน่นอนว่าเกิดคำถามขึ้นอย่างแน่นอน ในยุคที่อินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลายหรือเรียกได้ว่าข้อมูลต่างๆยังไม่มีการแชร์ต่อๆกันมากเท่าในตอนนี้ คุณมิมีการหาข้อมูลสมัครสอบยังไงบ้าง 

“ถ้าเราอยู่รุ่นใกล้ๆกันก็คือพันทิป เขาจะสร้างห้องลูกเรือของสายการบินต่างๆ เราก็เข้าไปตามอ่านที่เขาเขียนเล่าเรื่อง เขาลงภาพ ยิ่งคนเขียนอิน ยิ่งอ่านสนุก แล้วก็มีเว็บไซต์ Thai Cabin Crew มีข้อมูลเยอะมากค่ะ” คุณมิเล่า

เรียกได้ว่าพันทิปคือเว็บไซต์ที่สำคัญมากเลยทีเดียวนะคะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็มีสื่ออื่นๆเข้ามา ทำให้หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยได้ใช้งานเว็บไซต์นี้ แต่แน่นอนว่าเว็บไซต์นี้นั้นมีส่วนช่วยอย่างมากในการทำงานหรือหาข้อมูล พูดคุย ปรึกษาข้อสงสัย และเว็บไซต์ Thai Cabin Crew ในตอนนี้เองก็ยังคงเปิดให้เราเข้าไปหาข้อมูลได้

ใครหลายๆคนคงคิดว่าการได้เป็นแอร์โฮสเตสนั้น คือจุดจบของเรื่องราวนี้ แต่เมื่อเราได้เริ่มต้นแล้ว ย่อมเป็นการเปิดประตูบานใหม่ เพื่อไปพบเจอโลกกว้างและประสบการณ์ต่างๆ มีทั้งเรื่องที่ดี และเรื่องที่ไม่ดี แล้วยิ่งต้องไปทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ แน่นอนว่าการได้พบเจอผู้คนที่ต่างสัญชาติ ต่างวัฒนธรรม ต่างความคิด ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงและทำให้ได้ตระหนักถึงความหลากหลายบนโลกใบนี้

  • ประสบการณ์ Culture Shock หรือการถูกเหวี่ยงวีนจากผู้โดยสาร

แอร์โฮสเตสเป็นอีกหนึ่งงานบริการที่ต้องเจอลูกค้าที่หลากหลายทั้งภาษา วัฒนธรรม ความเชื่อ แน่นอนว่าต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องจดจำ ซึ่งคุณมิได้เล่าว่า 

“เหตุการณ์แบบนี้มีเยอะมาก ด้วยการที่ทำงานกับสายการบินใหญ่ แล้วในการทำงานคือมีคนหลายเชื้อชาติ หลายภาษา มีพื้นที่ที่เราไม่รู้จัก สัญลักษณ์ การทำมือต่างๆ บางท่าเราเป็นท่าปกติ บางทีเป็นการขอเวลา บางที่ถ้าเราทำท่านี้คือเขาโกรธเลยนะ ไม่พอใจ เรื่องอื่นๆด้วย เช่น อย่างเรื่องการใช้เท้า ของเขาอาจจะมองเป็นเรื่องปกติ แต่เราคือตกใจมากเรื่องนี้

เรื่องของความเชื่อก็ด้วย พี่มิเคยบินไฟล์ทหนึ่ง จะมีคนที่เขาบินข้ามเขตนี้ต้องล้างมือ เปลี่ยนชุด ห้องน้ำคือเปียกโชก เป็นพิธีกรรมทางศาสนาขจอง ผู้โดยสารจะเปลี่ยนชุด คลุมผ้าเช็ดตัว ตอนนั้นพิมิคือตกใจมาก เพราะไม่มีใครบอกเรามาก่อน แต่ละศาสนา แต่ละวัฒนธรรม ต่างกันไป ต้องเคารพกันและกันค่ะ

แล้วมันเป็นเรื่องปกติของการทำงานที่เป็นงานบริการมาก ที่เราอาจจะเจอลูกค้าที่เหวี่ยงใส่เรา เพราะความพอใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน ยิ่งทำงานกับหลายๆกลุ่มคน บางคนเขาอารมณ์ไม่ดีมาเหวี่ยงใส่ก็มี เคยมีการเขวี้ยงของ ทำร้ายก็มี แบบจนถึงขั้นต้องเรียก Security ก็มี บางทีเกิดขึ้นจากเรื่องเล็กๆ บางคนเขารู้สึกหงุดหงิด ก็ระเบิดอารมณ์ใส่เรา คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ แล้วมาสาดเบียร์ใส่หน้ามิก็มี เป็นเรื่องปกติ แต่ก็อยู่ที่บริบทว่าเราสามารถจัดการได้ไหม”

โดยแน่นอนว่าเมื่อเกิดปัญหาที่หน้างานแล้ว การแก้ปัญหาเองก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยคุณมิได้เล่าว่า “ก่อนที่จะขึ้นบินนั้นสายการบินจะต้องมีการเทรนพนักงาน เช่นว่าบางทีเราก็ต้องเป็นคนถอย ให้ผู้โดยสารเขาอารมณ์ดีขึ้นนะ อีกอย่างคือบางทีมีการไม่ชอบหน้าของลูกเรือ เราก็ต้องแก้ไขกันหน้างาน ย้ายน้องคนนี้ไปทำตรงนั้น ย้ายน้องตรงนั้นไปทำตรงนี้แทน”

เรียกได้ว่าเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับคนที่อยู่นอกวงการแอร์โฮสเตสเลยก็ว่าได้ เราหลายๆคนคิดว่าต่อให้งานแอร์โฮสเตสจะเป็นงานที่ต้องให้บริการ แต่ก็เป็นการบริการที่อยู่บนเครื่องบิน คงจะดีกว่าการที่ทำงานบริการทั่วๆไป แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะทำงานอะไร ย่อมต้องมีเรื่องที่คาดไม่ถึงและเป็นเรื่องที่ทำให้การทำงานของเราไม่สนุก สร้างความเสียหายทั้งทางร่างกายและจิตใจได้เหมือนกัน

ในตอนนี้หลายๆคนอาจจะใจไม่ดีที่ได้ฟังเรื่องราวอีกด้านของอาชีพนี้ แต่แน่นอนว่าอาชีพนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องที่ไม่ดี เพราะสวัสดิการของสายการบินนี้นั้น เรียกได้ว่าคุ้มค่าและควรค่าแก่การทำงานเป็นอย่างมาก สวัสดิการแรกที่นึกถึงเลยสำหรับสายท่องเที่ยว แน่นอนว่าคือการซื้อตั๋วเครื่องบินได้ในราคาพิเศษ คุณมิเองก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับสวัสดิการนี้ค่อนข้างเยอะเลย

คุณมิเล่าว่า “คุณมิใช้สวัสดิการตั๋วเครื่องบินตลอด เรียกได้ว่านับครั้งที่ซื้อเต็มได้เลย แทบจะทุกครั้งที่ซื้อตั๋วราคาพนักงานค่ะ เขาลดให้เรา 90% มันก็คุ้มที่เราจะกลับมาอยู่ไทยบ้าง หยุดสามสี่วัน ก็บินกลับไทย ใช้สวัสดิการตรงนี้ก็ช่วยเราได้มาก เป็นอีก 1 โอกาสของชีวิตที่ได้ไปที่ต่างๆ แต่ก็มีเงื่อนไข ถ้าเที่ยวบินเต็ม เราต้องรอให้ลูกค้าไปก่อนนะ ไปให้หมดก่อน บางทีเราเองก็ตกค้างที่สนามบิน แต่ไม่เรียกเป็นข้อเสียเนอะ เป็นข้อด้อย เพราะเราใช้ได้เต็มที่เลย”

เรียกได้ว่าเป็นสวัสดิการที่ดีและน่าสนใจมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราเป็นคนไทยที่ต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ เพราะพอถึงช่วงวันพัก ใครๆ ก็คงจะอยากบินกลับมาอยู่ที่บ้าน มาอยู่กับครอบครัว เป็นสวัสดิการที่ทำให้เราสามารถที่จะได้พบหน้าครอบครัวของตัวเราเองบ่อยครั้งมากขึ้น


  • คำแนะนำสำหรับคนที่อยากจะสมัครเป็นลูกเรือของสายการบินต่างๆ

อย่างที่หลายคนทราบกันดี การจะเข้าไปเป็นแอร์โอสเตสนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งนอกจากเราจะต้องเตรียมตัวในเรื่องของการทดสอบแล้วนั้น ยังมีสิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้าม

โดยคุณมิได้แนะนำว่า “คนที่มีความฝัน เขาต้องหันกลับมาดูตัวเองว่าพร้อมไหม ไม่ใช่แค่เรื่องของการสัมภาษณ์ แต่เป็นเรื่องของสุขภาพด้วย เราพร้อมทั้งภาษา ทั้งวุฒิ แต่สุขภาพไม่พร้อม หลายๆคนก็พลาดฝันนั้นไปเลยนะคะ เป็นเรื่องที่หลายๆคนมองข้าม พี่มิแนะนำว่าให้ตรวจสุขภาพว่าเป็นอุปสรรคสำหรับเราไหม ความรู้ทักษะ หาจากสื่อหรือหาความรู้ได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเรื่องของหลักการหรือการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ซึ่งข้อมูลตรงนี้ทำให้เราได้เตรียมใจ ทำให้รู้สึกว่าเราอยากจะไป อยากจะทำ อยากเป็น ข้อมูลหาง่ายมาก แต่ให้เน้นเรื่องของสุขภาพด้วย”

บอกได้เลยว่าในขณะที่เรากำลังสัมภาษณ์ตอนนั้น นี้เป็นเรื่องที่เราไม่คาดคิดมาก่อน เพราะเราคิดว่าการที่จะสอบเข้าเป็นแอร์โฮสเตสเนี่ยต้องฝึกทั้งเรื่องต่างๆเยอะมากๆ แต่พอคุณมิพูดถึงเรื่องของสุขภาพขึ้นมา ทำให้เรารู้ว่าแม้แต่พวกเราเองคนทั่วไปก็ลืมคำนึงถึงเรื่องสุขภาพไปเยอะมากๆ ดังนั้นแล้ว เมื่อคุณอยากจะเป็นแอร์โฮสเตสหรืออยากจะเป็นลูกเรือ อาชีพที่ต้องเจอสภาพอากาศและการทำงานที่ต่างออกไป เรื่องของสุขภาพนั้นสำคัญห้ามมองข้ามเป็นอันขาด เพราะไม่อย่างนั้น หลายๆคนอาจจะต้องพลาดฝันครั้งนี้ด้วยเรื่องของสุขภาพนั้นเอง

  • ก่อนที่จะตัดสินใจลาออก มีความลังเลบ้างไหม

คุณมิเล่าว่า “ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกลังเลมาก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ เราใช้ชีวิตกับอาชีพนี้มา14 ปี เป็นอาชีพที่ดี จรรโลงชีวิตและจิตใจมาก  ก่อนจะออกคือคิดมาก ลังเล ถึงขั้นเขียนในกระดาษ ข้อดีข้อด้อย ลิสเยอะมาก คิดหนักมาก เป็นความกลัวในใจว่าออกมาทำอะไร หารายได้ยังไง เราจะไหวไหม ความกลัวเยอะมาก 

แต่ก็ต้องตัดสินใจอาชีพนี้มีเส้นทางของมัน วันหนึ่งจะถึงจุดที่พอละ ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ ไม่ปีนี้ก็ปีหน้า เลยบอกตัวเองว่าออกมาเถอะ มาวางแผนชีวิตในวันที่เราไหว มาหยิบจับอะไรที่จะไปต่อได้ในอนาคต พอถึงจุดที่มั่นใจเลยตัดสินใจลาออก แต่ก่อนออกก็ปรึกษากับครอบครัว เพราะเขาก็กังวลกลัวเราเครียด เราก็ต้องทำให้ครอบครัวเรามั่นใจว่าเราเลือกแล้ว แต่ก็มีเคว้งคว้างบ้าง แต่พอย้อนไปดูกระดาษที่จดไว้ เลยเป็นไปได้ด้วยดีถึงตอนนี้

แล้วตอนนี้นอกจากจะแนะนำคนที่อยากเป็นแอร์แล้ว ต้องแนะนำคนที่อยากจะลาออกด้วย”

พอมาถึงตรงนี้ ก็รับรู้ได้เลยว่าการลาออกครั้งนี้ต้องใช้ความกล้ามากๆ ทั้งๆที่งานนั้นมั่นคงและมีสวัสดิการที่ดี แต่พอได้รู้เหตุผลแล้ว การลาออกครั้งนี้จึงเป็นการลาออกโดยที่วางแผนมาเป็นอย่างดี เมื่อหันหลังกลับไปมองแล้วนั้น ไม่มีเรื่องไหนที่ต้องรู้สึกเสียดายหรือเสียใจที่ตัดสินใจอย่างนั้น

จากที่คุณมิเล่ามานั้น มีการวางแผนก่อนที่จะลาออกแล้ว และหลายๆคนที่เป็นแฟนคลับของคุณมิคงจะได้เห็นว่าในตอนนี้นั้นคุณมิกำลังเปิดธุรกิจอะไรอยู่ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเพราะอะไรและทำไมถึงเลือกที่จะเปิดธุรกิจนี้ และเริ่มต้นได้อย่างไร

“การเปิดธุรกิจของพี่มิคือเริ่มจากจุดเล็กมากๆ ข้อจำกัดต่างๆ เริ่มจากอะไรเล็กๆ เริ่มทำหลังจากแอร์ พี่มิก็ทำคลิป แต่รู้สึกว่าต้องทำอย่างอื่นด้วย เลยพยายามนึกถึงจุดแข็งของตัวเอง คือเรื่องของการดูแลตัวเอง ความสวยความงาม เพราะเราเป็นแอร์ เราต้องดูแลตัวเอง แต่งหน้าตลอด บอกเล่าจากประสบการณ์ของตัวเอง เป็นจุดแข็งที่พูดได้จริง แล้วก็เริ่มพัฒนาเรื่อยๆ เราเดินทางกว่า 100 ประเทศ เราเห็นช่องทางการหาของจากการเดินทางที่ผ่านมา สกินแคร์ วิตามิน เครื่องสำอาง ซึ่งจากการเป็นแอร์ทำให้เรามีเครดิตในส่วนนี้มาก เป็นจุดแข็งเลย”

  • แล้วมีแพลนที่จะเปิดโรงเรียนสอนแอร์ไหม

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายๆคนอาจจะตั้งตารอคำตอบนี้ เพราะจากที่เราได้เห็นคุณมิในช่องทางออนไลน์ต่างๆที่มาทั้งบอกเล่าประสบการณ์ เรื่องราวต่างๆ ยังมีในเรื่องของการไปเป็นวิทยากรให้กับน้องๆที่มหาวิทยาลัยด้วย

“เคยคิดว่าเปิดสอนดีไหม พอลองมาลองธุรกิจ เราสนุกกับการทำธุรกิจมากกว่า แต่ก็มีเคยลองเหมือนกัน ต้องขอบคุณที่เราที่อยากลองทำอะไร ก็ทำเลย ทำหนึ่งสองสามสี่ เราเลยเลือกจากสิ่งที่ตัวเองชอบก่อน แต่งานสอนแอร์จะเป็นงานรองถ้ามีที่ไหนติดต่อมา ก็ดูเป็นที่ๆไป เป็นนักเรียน นักศึกษา เราก็ไปให้เขาถ้าเราสะดวก เป็นความสุขทางใจของเราค่ะ”

เราเห็นคุณมิมีความสุขกับการทำงานมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นแอร์โฮสเตส หรือตอนนี้ที่มาทำเป็นธุรกิจของตัวเอง จนอดสงสัยไม่ได้ว่า ด้วยเนื้องานของทั้งสองอาชีพนี้เป็นงานที่ไม่เป็นเวลามากนัก รวมถึงทั้งพอเป็นธุรกิจส่วนตัวของตัวคุณมิเอง ยิ่งต้องทุ่มเทให้ค่อนข้างมาก ในตอนนี้คุณมิมีใครมาแง้มประตูหัวใจแล้วรึยัง

“การเป็นแอร์ทำให้เราใช้ชีวิตคนเดียวค่อนข้างบ่อย ต้องหัดใช้ชีวิตคนเดียวให้เป็น พอวันนี้อยู่คนเดียว ก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะมันเหมือนเป็นตัวเรา ไม่ได้แย่ ไม่ได้รู้สึกขาด มีเพื่อน มีครอบครัว เคยชินกับการอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นนะคะ”

  • จุดหมายปลายทางที่อยากจะแนะนำ

“ความชอบของเราเป็นแบบไหน ต้องดูแต่ละคน แต่ของมิบางทีเราไม่มีเวลา แต่เราชอบไปนั่งอยู่ร้านกาแฟ สวนสาธารณะ มองดูผู้คน เตรียมของไปกินนิดๆหน่อยๆ เราเพลินมาก แต่ที่ที่พี่มิชอบคือที่ญี่ปุ่น ชอบความสบายใจเวลาที่เดินที่นั้น ธรรมชาติ ผู้คนอะไรแบบนี้ค่ะ”

  • จากพี่มิถึงนักเดินทางมือใหม่

 พี่มิได้แนะนำให้นักเดินทางมือใหม่กล้าที่จะออกไปเที่ยว กล้าที่จะออกจากเซฟโซนของตัวเอง อย่ากลัวหลง เพราะ “เสน่ห์ของการท่องเที่ยวคือการหลง การไม่รู้ เราต้องลองผิดลองถูก ถ้าไม่มีผลเสียตามมา มิคิดว่าการลองผิดลองถูกคือสนุกและได้ประสบการณ์ใหม่ๆ

แต่ปัจจุบันข้อมูลหาง่ายมาก เพราะฉะนั้นความสนุกในตอนนี้อยู่ที่การค้นหาเนี่ยแหละ

ไม่ต้องกลัวแต่ให้ระวังเรื่องของมิจฉาชีพ ป้องกันตัวไว้ เอกสารสำคัญก็ถ่ายเก็บไว้ในมือถือ เผื่อของหาย เผื่อโดนล้วงกระเป๋า ของแบบนี้มีทุกที่ ถ้าเราป้องกันตรงนี้ได้ อย่างอื่นก็คือสนุกแล้ว แต่อย่าคิดว่าความหลงเป็นความเสียเวลา เพราะบางทีเราจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ อื่นใดคือใจของเรา เที่ยวให้สนุกอยู่ที่ใจของเรา”

  • ช่องทางการติดตาม

ช่องทางในการติดตามมินะคะ ก็จะมีในช่องทาง

Youtube : CAPPUCCINO

Tiktok : @mimi_cappuccino